- แพทย์จะมี Home med กลับไปรับประทานที่บ้าน ขอให้รับประทานตามคำสั่งการรักษาของแพทย์ที่ระบุหน้าซองยา
- หมั่นบริหารกล้ามเนื้อและข้ออย่างสม่ำเสมอ
- ดูแลไม่ให้แผลผ่าตัดเปียกน้ำ ไม่เปิดแผลผ่าตัด เมื่อครบ 10-14 วันแผลจะนัดเปิดแผลและสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ
- ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กหรือวิตามินซีสูง เน้นอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพื่อช่วยบำรุงกระดูก บำรุงเลือด ได้แก่ นม โยเกิร์ต เต้าหู้ ปลาตัวเล็ก ส้ม ผักใบเขียว หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารทอด ขนมหวาน และผลไม้ที่มีรสหวานจัด
- ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน จะช่วยยืดอายุการใช้งานของข้อเทียม
- ระวังการหกล้ม เนื่องจากกล้ามเนื้อข้อเข่ายังไม่แข็งแรง ควรใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน ( walker frame ) จนกว่าจะเดินได้เอง ส่วนใหญ่สามารถเดินได้เองใน 1 เดือนหรืออาจจะใช้ไม้เท้าช่วยเดินโดยถือไม้เท้าตรงข้ามกับขาข้างที่ผ่าตัด ก้าวเท้าข้างที่ผ่าตัดออกไปพร้อมกับแขนด้านที่ถือไม่เท้า
- หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวหรือหมุนตัวที่เร็วเกินไปเพราะอาจจะทำให้ล้มได้
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก ผลักของหนักหรือการรับน้ำหนักที่มากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาที่มีการกระแทก ปะทะ หรือกระโดด เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล สามารถเดินเล่น วิ่งเหยาะๆ ตีกอล์ฟ ปั่นจักรยานระยะสั้นและเต้นรำได้
- หลีกเลี่ยงการขึ้น-ลงบันไดที่สูงชัน การขึ้น-ลงบันไดทำได้เมื่อกล้ามเนื้อต้นขาแข็งแรงและยืดหยุ่นดี หรือเมื่องอเข่าได้มากกว่า 90 องศา การขึ้นบันไดควรใช้ขาข้างที่ดีก้าวขึ้นก่อน ส่วนการลงบันไดควรก้าวขาข้างที่ผ่าตัดลงก่อน
- การขับรถยนต์สามารถเริ่มทำได้หลังผ่าตัด 6-8 สัปดาห์ หากผ่าตัดเข่าข้างซ้ายและรถเป็นเกียร์อัตโนมัติจะขับรถได้เร็วกว่ากำหนด ควรปรึกษาแพทย์
- หากจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดส่วนอื่นของร่างกายหรือทำฟันให้แจ้งแพทย์/ทันตแพทย์ว่าได้รับการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเพื่อพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อของข้อเข่าเทียม
- สังเกตอาการผิดปกติที่ต้องพบแพทย์ทันที ได้แก่ ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณแผลผ่าตัด ปวดบริเวณน่อง ขา รวมถึงข้อเท้า ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ มีน้ำเหลืองหรือเลือดไหลจากแผลผ่าตัด ไข้สูงหนาวสั่นข้อเข่าบวม เดินไม่สะดวก ข้อเข่าผิดรูปไปจากปกติ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอกอย่างแรง และเจ็บเฉพาะตำแหน่งเวลาไอ แสดงถึงลิ่มเลือดอุดันในปอด
- อาจมีอาการออกร้อนและชาเข่าข้างที่ผ่าตัดประมาณ 4-6 เดือน ( แต่ต้องไม่มีไข้หรือปวดจนพักไม่ได้เพราะเป็นอาการของการติดเชื้อ )
- มารับการตรวจตามแพทย์นัด หากมีอาการผิดปกติให้มาตรวจก่อนกำหนดได้
- หากไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แพทย์จะนัดติดตามผลการรักษาเพื่อตรวจดูสภาพและการทำงานของข้อเข่า ตลอดจนพิสัยการงอ-เหยียดของข้อเข่า ช่วงแรกแพทย์จะนัด 2 สัปดาห์ เพื่อตรวจดูแผล และนัดต่อไปทุก 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือนและทุก 1 ปี และถ่ายภาพรังสีปีละครั้งเพื่อดูการสึกของแผ่นรองข้อเทียมและการหลวมของข้อเทียม
- การมีเพศสัมพันธ์ไม่มีข้อจำกัดแต่ไม่ควรใช้ท่าที่งอเข่ามาก
- กรณีต้องเดินทางโดยเครื่องบิน ควรเดินทางหลังผ่าตัด 7 วันขึ้นไป พร้อม แจ้งพนักงานหากต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่นรถเข็ญ และควรเลือกเป็นที่นั่ง Long leg
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ โทร.0637187401 แผนกผู้ป่วยในชั้น 6 โทร.0622155957 WEBSITE www.rph.co.th LINE ID: @RPHLine